ลมทะเลพัดผ่าน....
เหล่าโต๊ะ เก้าอี้ที่ทำงานมาทั้งวัน นาฬิกาบอกเวลา 5 นาฬิกาในตอนกลางคืน
เป็นสัญญาณบอกว่าได้เวลาพักผ่อน...
และแน่นอนตอนนี้ก็ถึงเวลา 'พูดคุยประจำวัน' ที่พวกเขาพยายามอยู่นิ่ง ๆ มานานสักที ''วันนี้แสงแดดทำงานขยันขันแข็งเสียจริง ฉันเลยต้องทำงานหนักตามไปด้วย'' เก้าอี้หมายเลข 3 มีหนวดสวยเงางามบ่นเปิดบทสนทนา ''จริงจ้ะ พอแสงแดดกระทบหน้าฉันนาน ๆ ฉันรู้สึกว่าผิวแห้งกร้านขึ้นอีกแล้ว'' คุณนายเก้าอี้หมายเลข 5 ชุด 2 พยักหน้าเห็นด้วย ''แต่ถ้าคุณพระอาทิตย์ไม่ทำงาน พวกเราก็ตกงานเหมือนกันนะพวกนาย ฉันน่ะยังอยากมีงานและ ชีวิตที่มั่นคงอย่างนี้ไปอีกนาน ๆ'' โต๊ะยาวสีน้ำตาลอ่อนลายสวยที่อยู่ใกล้ ๆ แสดงความคิดเห็น ''ผมเห็นด้วยครับ..." เสียงที่ไม่คุ้นเคยชวนให้ตาทุกคู่หันตามเสียงไปอย่างไม่ได้นัดหมาย ''ผมกับเพื่อน ๆ ร่มชายหาดเริ่มงานวันนี้วันแรกครับ'' ร่มชายหาดลายทางสีเหลืองขาวสวยสะดุดตา ลายที่ใครมองก็ต้องบอกว่าช่างเข้ากับบรรยากาศริมทะเลเสียเหลือเกิน เอ่ยขึ้นพร้อมทำความเคารพเหล่ารุ่นพี่ที่ทำงานหรือให้เรียกว่ารุ่นพี่ที่บ้าน...น่าจะถูกต้องกว่า เพราะพวกเขาเดินทางมาแล้วก็ไม่ได้ไปไหน นอกเสียจากจะมีคนมาพาไปผจญภัยแต่เหตุการณ์แบบนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ฝ่ายที่อาวุโสกว่าตกใจเล็กน้อยหันกลับมองตากันไป ๆ มา ๆ แล้วฉีกยิ้มกว้าง "ยินดีต้อนรับเด็กใหม่ พวกเราต้องทำงานตั้งแต่ 11 โมงเช้าคงหนักสักหน่อย แต่นายจะมีความสุขที่สุดเมื่ออยู่ที่นี่" เหล่าโต๊ะ เก้าอี้พูดพร้อมกันเสียงดังเซ็งแซ่ ถึงอย่างนั้นนกน้อยบนต้นไม้กลับไม่ได้ยินที่พวกเขาคุยกันเลย --------------------------------------------------------------------------------------- "คุณโต๊ะหมายเลข 6 ครับ คนมาที่นี่กันได้ยังไงเหรอครับ พวกเขาทยอยมากันเรื่อย ๆ" ร่มชายหาดลายทางที่ทำงานมาได้ระยะหนึ่งสังเกตคนที่มาในแต่ละวันแล้วเกิดสงสัย "ผมได้ยินว่าบางคนก็เดินทางมาไกล บางคนก็อยู่ใกล้ ๆ ทั้งคนตัวสูงใหญ่ใส่กางเกง บ้างก็กระโปรง คนตัวเล็กจิ๋วที่ต้องให้คนสูงใหญ่อุ้มหรือจูงมือก็ด้วย" "คนตัวสูงใหญ่ที่เธอบอกก็คือ ผู้ใหญ่ ส่วนเจ้าตัวเล็ก คือ เด็ก ถ้าเล็กจิ๋วจนต้องห่อผ้าอุ้ม ก็คือ ทารก เราก็จะเห็นคนเหล่านี้มากันบ่อยเป็นธรรมดาล่ะนะเจ้าหนุ่ม ส่วนใหญ่แล้วจะมาทั้งคนตัวสูงใหญ่กับเด็ก หรือบางทีก็มีแค่คนตัวสูงใหญ่จะว่ารุ่นราวคราวเดียวกับร่มชายหาดที่อยู่ในช่วงทำงานอย่างเธอก็ได้ และแน่นอนว่าพวกเขามักมากันเป็นชุดเป็นคู่ เหมือนเหล่าเก้าอี้เพื่อนเรานี่เอง" โต๊ะหมายเลข 6 ตอบ เขาครุ่นคิดอยู่สักพักเพราะยังไม่ได้ตอบคำถามอีกข้อของร่มชายหาด "อะไรนะ..กู..กู...เกอ..อะไรสักอย่าง แมพด้วยนี่แหละ หนึ่งวิธีที่จะทำให้คนมาถึงนี่ได้ถูกต้อง ใช่ ๆ" เขาตอบ "นายอย่าลืมสิ มีสิ่งนั้นด้วยไงที่เขาเรียกกันว่า แฟนเพ..แฟนเพจน่ะ ดูข้อมูลทางนี้ก็ได้ แล้วฉันก็เกือบลืม เว็บไซต์ก็ใช่นะ" เก้าอี้มีพนักพิงข้างโต๊ะหมายเลข 6 พูดเสริม "จริงด้วยนะ ดูเวลาสิ พระอาทิตย์เริ่มทำงานแล้ว พวกเราคงต้องเตรียมตัวบ้างแล้วล่ะ" ว่าแล้วพวกเขาก็ประจำที่ของตัวเอง และทิ้งความสงสัยไว้ให้กับร่มชายหาดที่เหมือนว่าจะไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่รุ่นพี่พูดกันเท่าไรนัก ------------------------------------------------------------------------------------------ เสียใจจริง ๆ ...ผมพูดด้วยความสัตย์จริงเลยครับว่าไม่ได้ตั้งใจลืมวันครบรอบแต่งงาน...เพียงแต่ช่วงนี้งานเกิดมีปัญหามากมายจนต้องคิดหาทางแก้จนปวดหัวไปหมด พอกลับถึงบ้านรู้ตัวอีกที นาฬิกาก็บอกเวลาเที่ยงคืน 10 นาที และผ่านวันครบรอบมาแล้ว!!! ภรรยาของผมไม่ได้ว่าอะไร แต่ผมรู้นะ ว่าเธอโกรธ ผมไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ถึงจะมีเหตุผลแต่ก็ดันลืมวันสำคัญแบบนี้ไปเสียได้ ผมจึงวางแผนทำให้ภรรยาและลูกประหลาดใจ หวังว่าทั้งสองคนจะชอบที่ที่ผมจะพาไป...ผมอุตส่าห์หาข้อมูลมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยนะ พวกเราเดินทางออกจากบ้านประมาณ 9 โมงเช้าและจะถึงที่หมายเวลาประมาณ 11 โมงครึ่ง ใกล้เวลาอาหารกลางวันพอดี ภรรยาของผมไม่ได้พูดอะไรมากตอนที่บอกว่าจะพาเธอกับลูกไปเที่ยว ลูกสาวผมดีใจใหญ่เลย เห็นแบบนี้ก็สบายใจขึ้นมาบ้าง ใกล้ถึงที่หมายแล้วจะว่าไปก็เดินทางมาไม่ยากอย่างที่คิด เพราะข้อมูลที่ผมค้นมาชัดเจนเลยทีเดียว แบบนี้ค่อยดีหน่อย ถือว่าเริ่มต้นได้ดีเชียวล่ะ ผมจอดรถตรงบริเวณที่พนักงานแนะนำแต่ไม่ยักกะเห็นร้าน แต่แล้วก็มีรถคอยรับส่งคนจากลานจอดรถไปที่ร้าน อย่างนี้นี่เองจะได้ไม่ต้องเดินไปกลางแดดสะดวกมาก ๆ ผมลอบสังเกตปฏิกิริยาของภรรยาและลูกอยู่แทบจะตลอดเวลา คุณภรรยาทำหน้าตกใจเล็กน้อยตอนมาถึงหน้าร้าน เพราะผมรู้ว่าเธอสนใจการตกแต่งทั้งบ้านและสวนเป็นชีวิตจิตใจ ผมเลยคิดว่าเธอคงชอบที่นี่ ที่นี่จัดตกแต่งร้านสไตล์วินเทจได้อย่างลงตัว แถมบรรยากาศริมทะเลก็ดีเสียยิ่งกว่าดี จะเลือกนั่งด้านบนในห้องแอร์ หรือข้างนอก หรือจะลงไปนั่งตรงชายหาดก็ย่อมได้ไม่ว่าจะนั่งที่ไหนทั้งการตกแต่งที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านหรือการบริการจากพนักงานก็ทั่วถึงทั้งนั้น พวกเราเลือกนั่งข้างบนใกล้ ๆ ทางเข้า พอนั่งลงที่โต๊ะ เบาะที่เก้าอี้นุ่มกว่าที่คิดไว้จนผมคิดว่าอยากจะมีเก้าอี้แบบนี้สักตัวที่บ้าน...ก็ผมต้องนั่งทำงานจนปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวนี่ จากนั้นภรรยาและลูกก็ให้ผมเป็นคนสั่งอาหาร แล้วทั้งสองคนก็เดินลงไปชายหาดด้านล่าง สักพักหนึ่งอาหารก็มาเสิร์ฟ อาหารทะเลทั้งหลาย แล้วก็ไม่ลืมคาโบนาร่าของโปรดลูกสาว พวกเราไม่ได้สั่งมาเยอะมากแต่ก็กินกันจนเกลี้ยงและตบท้ายด้วยของหวาน ภรรยากับลูกเลือกเค้กคนละชิ้น สำหรับผมต้องกาแฟร้อนสักแก้ว ก่อนกลับลูกสาวชวนให้ไปถ่ายรูป ลูกสาวตัวน้อยวิ่งนำไปก่อน แล้วภรรยาก็พูดกับผมเบา ๆ ว่า ‘ ฉันไม่โกรธคุณหรอกค่ะ ขอบคุณที่พาพวกเรามาเที่ยวนะคะ’ ได้ยินอย่างนี้ผมก็สบายใจแล้วล่ะครับ ลูกสาวผมก็ชอบมาก ๆ ด้วยสิไว้ผมจะพามาอีกแน่นอน ------------------------------------------------------------------------------------------ “ผ่านไปอีกวันแล้ว วันนี้ก็ยังคึกคักเหมือนเคยเลยนะครับ” ร่มชายหาดกล่าว หลังจากบิดตัวไปมาแก้เมื่อยหลังทำงานต่อเนื่องมานาน “เพราะวันนี้เป็นวันหยุดด้วยล่ะนะ คนมาเที่ยวกันเยอะขึ้นจากเมื่อก่อน” คุณโต๊ะหมายเลข 10 ตอบกลับมา “จะว่าไปก็มีบางช่วงที่พวกเราแทบไม่ได้ทำงาน หวังว่าต่อไปสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็ฉันชอบทำงานนี่นะ”
“ใช่ ๆ ถึงทำงานจะเหนื่อย แต่ฉันก็ชอบนะ เห็นคนที่มาที่นี่มีความสุข ไม่รู้ทำไมฉันก็พลอยมีความสุขไปด้วย” เก้าอี้ยาวสีน้ำตาลอ่อนพูดเสริมพร้อมใบหน้าที่เปื้อนยิ้มชัดเจน พอพวกเขาได้ยินอย่างนั้น ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยเป็นเสียงเดียวกัน “แต่ฉันได้ยินว่ามีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับนายไม่ใช่เหรอ เจ้าหนุ่มร่มชายหาดตรงนั้น” เก้าอี้หมายเลข 3 ที่มีหนวดสวยเงางามถามอย่างสุขุม “เรื่องอะไรเหรอ…เล่าหน่อย ๆ “ คุณนายเก้าอี้หมายเลข 5 ชุด 2 จากที่กำลังง่วงอยู่ก็ตาเบิกโพล่งขึ้นมาทันที “เรื่อง เด็ก วันนี้ใช่ไหมเล่า” โต๊ะยาวสีน้ำตาลอ่อนลายสวยที่ฟังมาสักพักและเริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้พูดขึ้นมา ร่มชายหาดลายทางสีเหลืองสดใสคันนั้นจึงตอบไปว่า “ครับ” เขานิ่งไปสักพัก “ผมเพิ่งเคยเจอสิ่งมีชีวิตที่ฟังและเข้าใจเราด้วยเป็นครั้งแรก”
“ผมเพิ่งเคยเจอสิ่งมีชีวิตที่ฟังและเข้าใจเราด้วยเป็นครั้งแรก”
เขานึกถึงเด็กน้อยที่จูงมือคุณพ่อคุณแม่ลงมาถ่ายรูปที่ชายหาดชุดของเธอคล้ายกับลายตรงร่มของเขาเลย ตอนที่เห็นเขาเผลอคิดแล้วพูดออกมาแต่ไม่ได้คิดว่าจะมีใครมาได้ยิน แต่แล้วเด็กน้อยก็หยุดมอง “ชุดของหนูน่ารักเหมือนลายร่มของคุณร่มเลยค่ะ” เด็กหญิงตัวนัอยพูดพร้อมจับชุดกระโปรงกางออก ตอนนี้ที่เธอเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ที่น่าเอ็นดู “วันนี้สนุกมาก ๆ หนูชอบที่นี่จัง ไว้หนูจะขอให้คุณพ่อพามาใหม่นะคะ” ว่าแล้วเด็กหญิงตัวน้อยก็เดินตามคุณพ่อคุณแม่ไป เธอยิ้มและโบกมือลา ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินลับสายตาของร่มชายหาดไป ร่มชายหาดลายทางนิ่งไปสักพัก เพราะเขาไม่เคยเจอเรื่องเเบบนี้มาก่อน หลังจากตั้งสติได้ เขาก็พูดตอบกลับเด็กหญิงไปว่า “แล้วพบกันใหม่นะ เพราะพวกเราจะอยู่ที่นี่ The Glass House Pattaya''
ยินดีต้อนรับเสมอ...
ขอขอบคุณภาพจาก
The Glass House Pattaya. สืบค้นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2564, จาก
ติดตามความเคลื่อนไหวงานเขียนของ Sharpeitong
Facebook Page: https://www.facebook.com/Sharpeitong/
#ร้านอาหารริมทะเล
Comments